ของฝากจากชัยภูมิ

ของฝากจากชัยภูมิ


หม่ำตำนานรัก" แห่งเมืองชัยภูมิ
       หม่ำชัยภูมิ ได้ขื่อว่า "หม่ำตำนานรักแห่งเดียวของไทย ที่พรานป่าไปล่าสัตว์บนภูเขียว ภูคิ้งในอดีต ซึ่งต้องใช้เวลานาน 1-3 เดือน ในการเดินทางไป-กลับ พอล่าสัตว์ป่าได้ ก็คิดหาวิธีถนอมอาหารมาฝากลูก-เมีย ที่รออยู่บ้าน โดยที่เนื้อสัตว์ไม่เน่าเสีย
       พรานจึงสับเนื้อ ผสมตับ คลุกข้าวเหนียวและเกลือที่พกติดตัวไป ยัดใส่ในกระเพาะของสัตว์ หรือลำไส้ของสัตว์ เพื่อหมักหรือถนอมให้เก็บไว้ได้นาน เพื่อเป็นของฝากภรรยา พอกลับถึงบ้านนำมาชิม ปรากฏว่า มีรสชาติอร่อย เป็นที่ชอบใจภรรยา จึงถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและเป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมรับประทาน สืบมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ – ปัจจุบัน
       "หม่ำ” จึงเป็นอาหารพื้นเมืองชัยภูมิ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยในปัจจุบันนิยมทำจากเนื้อวัว หรือเนื้อหมู ผสมกับตับ กระเทียม เกลือ บดให้ละเอียด บรรจุไว้ในกระเพาะสัตว์ เนื่องจาก  เป็นการแปรรูปอาหารจากภูมิปัญญาที่เก็บไว้นานถึง เดือน เป็นที่นิยมบริโภคมากที่สุดทั้งในและต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานและนิยมซื้อเป็นของกินของฝากชั้นนำสัญลักษณ์ที่สำคัญจังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นสินค้าที่ระลึก
        ส่งผลให้หม่ำ เป็นสินค้า OTOP ประเภทอาหารพื้นบ้านที่สำคัญ ได้รับการรับรองตราอาหารปลอดภัย และ อย. จาก สสจ.ชัยภูมิ จุดเด่น หม่ำชัยภูมิ เป็นพก โดยใช้กระเพาะหมู บรรจุเพื่อให้เก็บรักษาคุณภาพได้นาน และรสชาติอร่อย แหล่งผลิตและจำหน่ายที่มีชื่อเสียงได้แก่ที่บ้านบัว อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.ภูขียว ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ และ บริเวณห้าแยกโนนไฮ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ไหมมัดหมี่...ของดีบ้านเขว้า
ประวัติผ้าไหมมัดหมี่อำเภอบ้านเขว้า     
        ผ้าไหมมัดหมี่อำเภอบ้านเขว้า โดยเฉพาะตำบลบ้านเขว้า มีประวัติความเป็นมา อันยาวนานเป็นเวลานานเกือบ   200 ปี  ตั้งแต่สมัยเจ้าพ่อพระยาแล  เป็นชุมชนที่มีการทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมานานในหมู่ผู้นิยมผ้าไหม   และเกิดการเล่าขานแพร่กระจายในกลุ่มนักสะสมผ้าไหม  ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเองสืบต่อถ่ายทอดกันมาแต่โบราณ
การทอผ้าไหมมัดหมี่ ชาวบ้านเขว้า ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพชน นานเกือบ 200 ปีนับแต่มีการก่อตั้งชุมชนบ้านเขว้า  เริ่มจากการทอเพื่อใช้ในครัวเรือน ต่อมาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในงานประเพณีต่างๆ เช่น งานแต่งงาน ใช้เป็นเครื่องแต่งกายของเจ้าบ่าว เจ้าสาว ใช้เป็นของไหว้สำหรับญาติฝ่ายชายในงานแต่งงาน งานบวชใช้แต่งตัวนาคและผู้ที่ไปร่วมงาน รวมถึงงานบุญ งานทาน งานประเพณีต่างๆ ผู้คนจะแต่งกายด้วยผ้าไหม ทั้งหญิงและชาย เป็นการประกวดประชันทั้งฝีมือการทอและการตัดเย็บกันไปในงานที   
  ผ้าไหมของบ้านเขว้า เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วไปเมื่อประมาณ พ..2523 นายถนอม แสงชมภู   นายอำเภอขณะนั้น ได้นำผ้าไหมส่งศูนย์ศิลปาชีพ สวนจิตรลดา ด้วยคุณภาพของผ้าไหม ลวดลายที่แปลกตา และผีมือที่ปราณีต จึงได้รับความสนใจ มีผู้สั่งทอเป็นจำนวนมาก ต่อมาในปี พ..2530 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในขณะนั้น (.สุนัย ณ อุบล รน. :ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ด้านผ้าไหม และผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไหมได้ให้การส่งเสริมการผลิตและได้ส่งผ้าไหมบ้านเขว้าเข้าประกวดที่โครงการศิลปาชีพ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากนั้น ผ้าไหมบ้านเขว้าได้รับการคัดเลือกส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศเกือบทุกปี
        เอกลักษณ์ของลายผ้า  เป็นการสะท้อนความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของชุมชนที่เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมของชุมชน  ก่อให้เกิดจินตนาการคิดค้นออกมาเป็นลวดลายต่างๆ  บนผืนผ้าถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
ตะโกดัดบ้านแข้...อำเภอภูเขียว
        ตะโกดัด เป็นไม้ประดับที่บ้านแข้เริ่มปลูกเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา แต่ไม้ดัดบ้านแข้ ก็ได้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิไปแล้ว โดยเฉพาะตะโกดัด ถือเป็นไม้ดัดสำคัญของบ้านแข้ มีการจัดตั้งกลุ่มทำไม้ตะโกดัดที่หมู่บ้านแข้  ตำบลผักปัง  อำเภอภูเขียว  จังหวัดชัยภูมิ  บ้านแข้เป็นแหล่งผลิตตะโกดัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชาวบ้านจะเข้าไปขุดต้นตะโกในพื้นที่ต่าง ๆ และเขตใกล้เคียง ทั้งขนาดต้นเล็กและใหญ่ เพื่อนำมาทำไม้ดัดด้วยความชำนาญ  เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว บ้านแต่ละหลังจะเต็มไปด้วยตะโกดัด แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาไม้ประเภทอื่น ๆ เป็นไม้ดัดเพิ่ม  เช่น โมกมะขามเทศข่อย  ฯลฯอ้างอิง
 อ้างอิง
1.http://student.nu.ac.th/
2.http://maithai.site90.net/5060505451/index.php?option=com_content&task=view&id=68&Itemid=85
3.http://www.gotoknow.org/posts/411575



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เกี่ยวกับตัวเรา

ท่องเที่ยวดั่งฝัน